- "สำหรับสายนิชิซึมิ ไม่มีคำว่าหนี"
- ―นิชิซึมิ มาโฮะ
- "หัวหน้าของพวกเราเจ๋งที่สุด!"
- ―ผู้บังคับการรถถัง Panther กล่าวถึงเธอ
นิชิซึมิ มาโฮะเป็นหนึ่งในตัวละครเสริมของสาวปิ๊ง ซิ่งเเท๊งค์, และเธอก็มีบทบาทที่สำคัญอีกมากมายในภาคแยกต่างๆ นอกจากนี้เธอยังเป็นหนึ่งในตัวละครที่สำคัญที่สุดในอนิเมะฉบับภาพยนตร์อีกด้วย
เกริ่นนำ[]
ลูกสาวของนิชิซึมิ ชิโฮะและพี่สาวแท้ๆของนิชิซึมิ มิโฮะ, มาโฮะคือนักเรียนชั้นปีที่ 3 จากโรงเรียนสตรีคุโรโมริมิเนะ เธอยังเป็นหัวหน้าหน่วยของทีมเซนฉะโดและเป็นผู้สืบทอดสายนิชิซึมิ นอกจากนี้เธอยังบังคับการรถถังสัญชาติเยอรมันอันเลื่องชื่อ Tiger I
ข้อมูลส่วนตัว[]
มาโฮะเป็นคนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยปานกลางเล็กน้อย เธอมีผมสั้นสีน้ำตาลเข้ม และมีดวงตาเป็นสีน้ำตาลเข้ม โดยทรงผมของเธอมีความคล้ายกับน้องสาวของเธอ แต่มีสีผมที่เข้มกว่าเล็กน้อย และปลายผมด้านหลังของเธอชี้ออก
เรามักจะได้เห็นเธอใส่ชุดเครื่องแบบของทีมเซนฉะโดอยู่เสมอ โดยเป็นชุดสีดำเข้มและมีกระโปรงรวมถึงขอบสีแดง พร้อมกับหมวกทหาร แต่เธอก็ชื่นชอบที่จะแต่งชุดโทนสว่างตอนที่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบอยู่อีกด้วย
อุปนิสัยของตัวละคร[]
เป็นที่รู้กันไปทั่วว่ามาโฮะเป็นคนที่มีความสามารถทางเซนฉะโดสูงมาก จากการได้รับความไว้วางใจจากคนรอบข้างของเธอไม่ว่าจะเป็นแม่,น้องสาวหรือลูกทีม เธอมีนิสัยที่ค่อนข้างสุขุมและเยือกเย็นและอาจจะดูโหดเหี้ยมในบางครั้ง แต่นั่นก็เป็นเพราะว่าระเบียบวินัยและความกดดันจากแม่ของเธอต่างหาก ความจริงแล้ว, เธอเป็นคนที่ใจดีมาก และเธอยังรักน้องสาวของตัวเองมากที่สุดอีกด้วย สาเหตุที่เธอต้องยึดติดกับวินัยและสายนิชิซึมิ ก็เป็นเพราะว่าเพื่อที่จะทำให้มิโฮะได้เป็นอิสระจากมันนั่นเอง
ในมังงะภาคแยก Motto Love Love Sakusen Desu! มีการเปิดเผยว่าหากตัวเธอไม่ได้มีภารกิจสำคัญ ตัวเธอจะไม่ค่อยพิถีพิถันมากนัก เช่น เมื่อเธอพยายามจะจัดงานเลี้ยงวันคริสมาสต์ให้กับลูกทีมของเธอที่ไม่ได้กลับไปฉลองกับครอบครัว แต่ด้วยกฎระเบียบของโรงเรียนและนิสัยของเธอที่ถึงแม้จะหวังดี แต่ก็ทำให้ลูกทีมของเธอลำบากใจเช่นกัน เพราะความจริงแล้วตัวเธอนั้นไม่ได้เป็นคนที่เชี่ยวชาญและเข้าใจในเรื่องงานเลี้ยงมากนัก
ภูมิหลังของตัวละคร[]
| คำเตือน! มีการสปอยล์เนื้อหาจากอนิเมะ |
เช่นเดียวกับมิโฮะ, เธอมาจากครอบครัวที่ชำนาญการทางด้านเซนฉะโด พวกเธอเคยอยู่ด้วยกันมาก่อนที่โรงเรียนคุโรโมริมิเนะ จนกระทั่งการพ่ายแพ้ต่อปราฟด้าในรอบชิงชนะเลิศปีก่อน มิโฮะที่เลือกที่จะทิ้งรถธงที่ตัวเองบังคับการอยู่เพื่อไปช่วยลูกทีมของ Panzer III ที่พลัดตกน้ำ นั่นทำให้คุโรโมริมิเนะสูญเสียโอกาสที่จะคว้าชัยชนะสิบครั้งซ้อนไปอย่างน่าเสียดาย หลังจากนั้นมิโฮะจึงเลือกที่จะหนีมายังโรงเรียนสตรีโออาไร
เธอได้ให้ยืมเฮลิคอปเตอร์กับเรย์เซย์ มาโกะและทาเคเบะ ซาโอริเพื่อที่จะให้พวกเธอได้ไปหาคุณยายของมาโกะได้เร็วที่สุด หลังจากนั้นตอนที่แม่ของเธอตัดสินใจที่จะขับมิโฮะออกจากสายนิชิซึมิ ตัวเธอก็แสดงสีหน้าที่โศกเศร้าอย่างชัดเจน นอกจากนี้ตอนที่โออาไรสู้กับปราฟด้าตัวเธอยังโน้มน้าวให้ชิโฮะอยู่ต่อ ตอนที่ชิโฮะเลือกที่จะออกไปเพราะคิดว่าเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์ แถมมาโฮะก็ยังบอกกับแม่ของตัวเองอีกด้วยว่าชัยชนะที่มิโฮะได้ไม่ใช่โชค แต่เป็นความสามารถที่รับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี อย่างไรก็ตาม ตัวเธอก็ไม่ได้ลังเลที่จะตอบรับคำสั่งจากแม่ของเธอให้เอาชนะโออาไรของมิโฮะในรอบชิงชนะเลิศ
ในรอบชิงชนะเลิศ, มิโฮะนำตัวเองมาเผชิญหน้าแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับมาโฮะได้สำเร็จ และก็สามารถเอาชนะพี่สาวของตัวเองได้ด้วย ซึ่งหลังจากการแข่งจบลง มาโฮะแสดงความยินดีพร้อมกับยอมรับความพ่ายแพ้และยังพูดอีกด้วยว่ามิโฮะต่างจากสิ่งที่นิชิซึมิเป็นอย่างมาก ซึ่งมาโฮะเชื่อว่ามิโฮะเจอเซนฉะโดของตัวเองแล้ว
Little Army
ในภาคแรก,ตัวเธอสามารถคว้าชัยชนะการแข่งเซนฉะโดระดับมัธยมต้นมาได้ และได้กลับมาที่บ้านในตอนที่ 3, แต่ว่าเพื่อนสนิทของมิโฮะ, นากาซึกะ เอมิโมโหมาโฮะเป็นอย่างมากเพราะว่าคู่ต่อสู้ของมาโฮะในรอบชิงชนะเลิศนั้นคือพี่สาวของตัวเองและพวกเธอก็ประสบอุบัติเหตุรถถังพลัดตกลงหน้าผา แต่มาโฮะกลับโจมตีต่อจนได้รับชัยชนะ โดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
แต่ก่อนที่มาโฮะจะได้พูดอะไร ชิโฮะก็มาถึงและแสดงความยินดีกับมาโฮะเสียก่อน มาโฮะยอมรับในสิ่งที่เอมิกล่าวหามาและเดินจากไปอย่างเยือกเย็น สร้างความสับสนให้กับมิโฮะเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ความจริงทุกอย่างถูกเปิดเผย มิโฮะต้องตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะพี่เธอทำในสิ่งที่เอมิบอกมาจริงๆและทำเพื่อชัยชนะเท่านั้น และยังรู้อีกด้วยว่าถ้าพี่สาวของตัวเองไม่ทำแบบนั้น พี่สาวของเธอจะต้องถูกขับออกจากตระกูลและตัวมิโฮะจะต้องก้าวขึ้นมาทำหน้าที่นั้นแทน
หลังจากที่มาโฮะได้สู้กับมิโฮะและเพื่อนของเธอเพื่อเปิดใจซึ่งกันและกัน ในที่สุดเอมิก็ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และตัวเธอก็ได้แยกทางกับพี่น้องสายนิชิซึมิ โดยการไปศึกษาต่อที่เยอรมันพร้อมสัญญากับมิโฮะว่าจะกลับมาเล่นเซนฉะโดด้วยกันอีกครั้ง
Little Army2
หลังจากการแข่งขันเซนฉะโดระดับประเทศครั้งที่ 63 จบลงด้วยชัยชนะของโออาไร มาโฮะไม่ได้อยู่คุมทีมเซนฉะโดของเธออีกต่อไป โดยยกหน้าที่นั้นให้กับอิซึมิ เอริกะ แต่ตัวเธอก็ยังคงตามมารับชมข้างสนามอยู่ และในศึกชิงถ้วยที่ระลึกช่วงฤดูหนาว เธอก็ได้พบกับเอมิ เพื่อนของมิโฮะอีกครั้ง แต่คราวนี้ทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่กันมากขึ้นและเข้าใจกันมากขึ้นก่อนที่เอมิจะขอโทษมาโฮะในสิ่งที่เกิดขึ้น มาโฮะก็ยกโทษให้เพราะเรื่องมันนานมากแล้วเช่นกัน
สาวปิ๊ง ซิ่งแท๊งค์ฉบับภาพยนตร์
มาโฮะพร้อมกับลูกทีมของเธออีก 3 คัน ได้เข้าช่วยเหลือโออาไรในศึกที่ปะทะกับทีมตัวเเทนมหาวิทยาลัย โดยเธอเป็นรถถังเพียงคันเดียวที่เหลือรอดจากการต่อสู่คราวนั้น
สาวปิ๊ง ซิ่งเเท๊งค์ตอนปัจฉิมบท
เธอได้ยกหน้าที่หัวหน้าหน่วยของตัวเองให้กับอิซึมิ เอริกะอย่างเต็มตัวก่อนที่เธอจะไปศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมัน
Ribbon Warrior
- "เธอพลิกเกมได้สำเร็จแล้วค่ะ! สายนิชิซึมิ...กินอะไรเป็นอาหารล่ะเนี่ย!?"
- ―ลูกทีมของทาเทโกโตะได้กล่าวไว้หลังจากที่พวกเธอ 4 จาก 5 คันถูกมาโฮะจัดการในไม่กี่วินาที
ในตอนที่ 15 ของเนื้อเรื่อง, มีการเปิดเผยว่าหลังจากที่คุโรโมริมิเนะพ่ายต่อโออาไร, มาโฮะได้ทำการปฏิรูปทีมเซนฉะโดใหม่ด้วยการจัดงานเลี้ยงเบียร์ไร้แอลกอฮอล์
ในมหกรรม”Cualdron” ที่จัดโดยดาร์จีลิ่ง, ดาร์จีลิ่งได้เปลี่ยนชื่อทีมของเธอโดยพลการ(จากทีมนีเบอร์ลุงเก้น เป็นทีมหน้ากากนิชิซึมิ ถึงแม้ว่าเธออยากจะใช้ชื่อว่าหน้ากากซิคฟรีดก็ตาม) โดยในรอบแรกตัวเธอสามารถเอาชนะทีมทาเทโกโตะได้อย่างง่ายดายถึงแม้ว่าจะโดนรุม 5 ก็ตาม
คำกล่าวสำคัญ[]
- (ตอนให้มาโกะยืมเฮลิคอปเตอร์) - “นี่ก็เป็นเซนฉะโดนะ”
- (Little army) - “ตราบใดที่ชั้นยังเป็นผู้สืบทอดแห่งสายนิชิซึมิ มิโฮะก็จะปลอดภัย”
- (พูดกับมิโฮะตอนชนะเลิศ) - "ยินดีด้วยที่ชนะเลิศ, แพ้ราบคาบเลยล่ะ. สู้ได้สมกับเป็นมิโฮะเลยนะ... ต่างจากสายนิชิซึมิลิบลับเลยล่ะ"
- (พูดกับเอริกะ ใน Der film) - "ถึงจะชั่วคราว แต่ทีมก็คือทีม, ต้องเสริมจุดอ่อนให้กันและต่อสู้"
- (พูดกับเอริกะใน Das finale) - "ไม่ต้องกังวลเรื่องผล ลองหาเซนฉะโดในแบบของเธอดู"
- (Derfilm) - "ของกินที่ชอบมันไม่เกี่ยวกับปฏิบัติการณ์เลยไม่ใช่หรอ!"
- (Derfilm) - "เอาเป็น "ปฏิบัติการณ์ไมสเตอร์ซิงเกอร์ วอน เนอร์นแบร์ก" ดีไหม? มันเป็นองค์ที่ 3 ของโอเปร่า..."
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม[]
- นามสกุลของมาโฮะ, “นิชิซึมิ” มาจากคำว่า นิชิ(西)แปลตะวันตก และคำว่าซึมิ(住)แปลว่าที่อาศัย
- ดอกไม้ที่เธอชื่นชอบคือ ดอกซากุระ และรถถังที่เธอชื่นชอบคือ Panther รุ่น F
- มาโฮะเลี้ยงสุนัขพันธ์อาคิตะ เคน ซึ่งปรากฎตัวในอนิเมะฉบับภาพยนตร์
- ดูเหมือนว่ามาโฮะจะเป็นหัวหน้าทีมเพียงคนเดียวที่คัทยูช่าหวั่นเกรง สังเกตุได้จากตอนที่คัทยูช่าโอ้อวดถึงทักษะของเธอว่ามีสูง แต่เมื่อโดนมาโฮะจ้องหน้าใส่ เธอถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว
- วันเกิดของมาโฮะ หรือ 1 กรกฎาคมเป็นวันที่มีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญนั่นคือ ยุทธการอัล อลาไมน์ ครั้งที่หนึ่ง ตัวเธอซึ่งเป็นพี่สาวจึงแสดงถึงครั้งที่หนึ่ง ส่วนน้องสาวของเธอ,มิโฮะ แสดงถึงครั้งที่สองนั่นเอง
- รถถังที่มาโฮะใช้มีหมายเลข 212 กำกับอยู่, ซึ่งมันคือหมายเลขเดียวกับรถถังของ มิเคเอล วิทท์มันน์ที่มีเหตุการณ์สำคัญนั่นคือสงครามแห่งวิลแลร์-โบคาจนั่นเอง ซึ่งวิทท์มันน์ได้เสียชีวิตในศึกคราวนั้น และมีการคาดการณ์ว่าคนที่สังหารเขาก็คือโจ เอกินส์(คนที่มิโฮะพูดถึงในตอนพิเศษของอันซิโอ้)
- ใน Phase Erika, ช่วงของการฝึกซ้อม มีการคาดการว่าสายนิชิซึมิ(ทั้งมาโฮะและมิโฮะ) มีทักษะในการสัมผัสว่าลูกกระสุนปืนจะยิงมาจากทางไหนได้โดยที่พวกเธอไม่จำเป็นต้องมองเห็นมัน (อ้างอิงจากตอนที่มิโฮะหลบลูกกระสุนของ Fireflyและตอนที่มาโฮะสัมผัสได้ถึง Hetzerที่กำลังจะซุ่มโจมตีจากด้านหลัง)
- รถถังคันที่มาโฮะใช้ใน Ribbon Warrior เป็นรถถังคันเดียวที่ปรากฎในฉบับภาพยนตร์
- มีการเปิดเผยใน little army 2 ว่าตัวเธอเป็นหนึ่งในนักกีฬาเซนฉะโดที่เป็นตัวแทนทีมชาติไปเเข่งเซนฉะโดระดับโลก
รูปภาพ[]
รูปภาพของนิชิซึมิ มาโฮะ